รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เช่น ถ้าคุณอยู่บนสุด ของระดับที่สองแล้ว แต่คุณออกไป (ผู้) ประทับจิต และคุณคิดว่า คุณกำลังทำสิ่งนี้ เพราะคนอื่นชื่นชมคุณ หรือรักคุณ หรือทำบางอย่าง ก้มหัวให้คุณ ถวายเครื่องบูชาแก่คุณ แล้วคุณเพลิดเพลินกับความหรูหรา จากของที่มอบให้จากผู้คนมากเกินไป คุณก็หลงทางแล้ว! ไม่เพียงแต่คุณจะหลงทางเท่านั้น คุณยังขึ้นไม่ได้เลย ลงมาจากที่สูง 5 องศาถึง 10 องศา หรือแม้แต่ลงมาถึง 20 องศาก็ตาม คุณกลายเป็น 50 องศา หรือ 40 องศา นั่นคือระดับโลกทิพย์ หรือคุณโกรธคนอื่น คุณคิดว่า คุณอยู่บนสุด และพวกเขาอยู่ต่ำกว่า คุณไม่ได้มอง คุณไม่เคารพพวกเขา แม้แต่คนต่ำกว่า หากคุณไม่เคารพพวกเขา คุณจะเดือดร้อนแน่และตอนนี้ฉันกำลังบอกคุณว่า แม้คุณจะอยู่ในระดับที่สามแล้วก็ตาม หากคุณไม่เคารพผู้อื่น และคุณสนุกสนานมากเกินไป คุณก็จะประสบปัญหาเช่นกัน ปัญหาคือกรรม ที่คุณก่อไว้ ต้องได้รับการกำจัดทันที แต่สิ่งที่สวยงามของเรื่องนี้ก็คือ พระเจ้าแห่งกรรม สามารถลงโทษคุณได้เท่านั้น ท่านไม่อาจผูกมัดคุณ ในโลกนี้อีกต่อไป ท่านไม่สามารถดึงระดับของคุณ ลงต่ำไปได้อีกต่อไปเช่นกัน คุณอาจหยุดตรงนั้นนิดหน่อย แต่คุณจะขึ้นไปเสมอ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว หรือหยุดสักพัก แต่ก็จะขึ้นไปเสมอ คุณจะไม่ลงมา จากระดับที่สามอีกต่อไป มันดีอย่างนั้นแต่คุณจะต้องได้รับโทษ หากคุณทำสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป หากคุณใช้จ่ายเกินตัวในโลกนี้ เพราะทุกสิ่ง ในโลกนี้เป็นของ พระเจ้าแห่งกรรม คุณพูดไม่ได้ว่า คุณคือนักบุญ คุณมาที่นี่และรับประทาน อาหารกลางวันฟรี จากนั้นก็ขึ้นไป ไม่ใช่ เพราะงั้น คุณยังต้องทำงานอยู่ ให้เท่ากับ สิ่งที่คุณใช้จ่ายแม้ว่าพระเจ้าแห่งกรรม จะไม่ลงโทษคุณ คุณก็ยังต้องผ่านนรก ไฟนรกในชีวิตเพื่อเผาผลาญ ขยะทั้งหมดนี้ไป เพราะถ้าคุณต้องการที่จะอยู่ ในระดับที่สามหรือสูงกว่านั้น คุณจะต้องมีวัตถุน้อยลง ยิ่งคุณมีวัตถุอยู่ในตัวมาก หรือจิตใจและวิญญาณของคุณหรือ ทุกสิ่งทุกอย่างแปดเปื้อนมากเท่าใด ก็จะยิ่งหนักมากขึ้นเท่านั้น ของหนักก็มักจะ จมลงสู่ก้นบ่อเสมอ ก็ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ... แม้พระเจ้าแห่งกรรมจะ ไม่นับสิ่งที่คุณกิน สิ่งที่คุณใช้จ่าย สิ่งที่คุณทำที่นี่ คุณก็จะยังคงเจือปน ด้วยสิ่งของทางวัตถุอยู่ดี นั่นคือเหตุผล – ชีวิตที่เรียบง่าย วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและความอดทน อย่าเรียนรู้ เหมือนอย่างที่ฉันตำหนิคนอื่น และคุณก็จะทำเหมือนกัน ไม่ ไม่ ไม่ใช่ ฉันทำสิ่งนั้นเพื่อประโยชน์พวกเขา ฉันไม่สนุกที่จะทำแบบนั้น และฉันก็ไม่อยากทำด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ตัวฉันดังนั้น อย่าคิดว่า คุณเป็นนักบุญ แล้วคุณสามารถทำ ทุกสิ่งที่คุณต้องการได้ ความพอประมาณในทุก ๆ ด้าน จำไว้ว่าทุกครั้งที่คุณ ใส่ใจคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความผูกพัน ความรักใคร่ สิ่งใดก็ตาม นั่นแหละคือปัญหา นั่นสร้างปัญหาให้กับคุณ คุณจะแพ้ หรือคุณจะล่าช้า หรือคุณจะหยุด คุณหยุดความก้าวหน้าของคุณ ทุกสิ่งที่คุณมอบให้ผู้อื่น คุณจะสูญเสียไป มันเกี่ยวกับคุณทั้งหมด มันไม่เกี่ยวกับใครอื่นเลยดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จงจำไว้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกครั้งที่คุณใส่ใจใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ หรืออะไร ที่ไม่สมเหตุสมผล หรือความผูกพัน คุณจะสูญเสีย - คุณสูญเสียเวลา ของคุณ คุณสูญเสียเวลา ที่จัดสรรไว้สำหรับการขึ้นไป แล้วแน่นอนว่า คุณจะขึ้นไป แต่แล้วคุณจะสูญเสียช่วงเวลาของ... คุณควรขึ้นไปที่นี่แล้ว แต่คุณไม่ได้ทำ คุณอยู่ที่นั่น แล้วคุณก็ต้องเริ่มต้นใหม่ จากตรงนั้นอีกครั้งทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของคุณ ทุกสิ่งอันล้ำค่าเป็นของคุณ ดังนั้น จงรักษาสมบัติของคุณให้ดี มันเปราะบาง มันยังใหม่และถึงแม้คุณไปถึง ระดับที่ห้า ก็ยังต้องระมัดระวังอยู่ดี แต่แน่นอนว่า คุณสามารถล้างได้ง่ายกว่า ถ้าคุณเป็นอาจารย์แล้ว ก็เป็นหน้าที่ ของคุณที่จะชำระล้างเหล่าลูกศิษย์ ถ้าพวกเขาไม่ดี ถ้าพวกเขาสกปรกที่ไหนสักแห่ง คุณจะต้องทำมัน ด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลาย แต่ถ้าคุณไม่ใช่อาจารย์ ก็ระวังอย่าทำแบบนั้น โอเค? เพราะคุณจะทุกข์ เปล่า ๆ และสูญเสียผลบุญทางจิตวิญญาณไป ใครอยากได้แบบนั้นบ้าง? คุณหนาวหรือ? นั่งตรงนี้สิ (ไม่ครับ) ไม่หรือ? พื้นไม่เย็นหรือ? (ไม่ครับ ไม่…) (ไม่ค่ะ/ครับ) ไม่นะ? โอเค คุณควรนำหมอนของคุณมาด้วยโอเค นี่เป็นความลับของฉัน ไม่ เพราะฉันไม่ได้จำ สิ่งที่ฉันรู้เสมอไป จำได้เฉพาะตอนที่ ฉันต้องการแบ่งปันกับคุณเท่านั้น ถ้าฉันไม่เขียนมันลงไป ฉันก็ลืมเหมือนกัน เพราะฉันมีเรื่องอื่น อีกมากมายรออยู่ ข้อมูลไม่ได้มาเสมอ เมื่อฉันต้องการ มันมา ตอนที่ฉันต้องการมัน แน่นอน แต่ไม่ใช่ ตอนที่ฉันอยากจะมอบมันให้คุณ มันจะกลับมาอีก เพราะมีเรื่องอื่นรออยู่ มันเหมือนกับคอมพิวเตอร์ คุณอย่าใส่มันมากเกินไป ฉันก็เลยเขียนมันลงไปครั้งนี้ ก็ให้แน่ใจว่า คุณโอเค มีบางสิ่งที่ฉันเขียนไว้ แต่บางสิ่งที่ฉันไม่เขียน มันแล้วแต่เอาล่ะ ตอนนี้คุณเข้าใจทั้งหมดแล้วใช่ไหม? จงอ่อนน้อมถ่อมตน จงอ่อนหวาน จงใจดี จงอ่อนโยน มันดีกว่าสำหรับคุณ อย่ามองสิ่งที่ฉันทำ เพียงทำสิ่งที่คุณควรทำ จงทำสิ่งที่ฉันบอกให้คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำ ฉันมีงานอื่น ตัวอย่างเช่น ในห้องเรียน ครูจะดุนักเรียนทุกคน ในชั้นเรียน แต่เธอออาจจะเลือก นักเรียนดี ๆ บางคน มาลองสอนบ้าง บางวัน เธอจะมอบหมายว่า "โอเค วันนี้คุณสอน บทเรียนนี้ บทเรียนนั้น" แต่ไม่ได้หมายความว่า นักเรียนคนนั้นมีสิทธิหรือความดี ที่จะดุทั้งชั้น มีเพียงครูเท่านั้น ที่สามารถทำสิ่งนั้นได้ เพราะเธอรู้ว่า เธอกำลังทำอะไรอยู่ นักเรียนเพียงแค่กำหนดบทเรียนหนึ่ง หรือสองบทเรียนภายในเวลาไม่กี่วัน เธอไม่มีสถานะเป็นครู ที่จะทำอย่างนั้นได้เลย แม้ว่าคุณจะสามารถ สอนวิถีกวนอิมได้ แต่คุณไม่ใช่ครู คุณไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือก เมื่อผู้ถูกเลือกมาถึง ฉันจะแจ้งให้คุณทราบ โอเค? ฉันจะบอก จะมีข่าวที่น่าตื่นเต้น มากมายเกิดขึ้น แต่ฉันจะไม่บอกคุณ และไม่ใช่เวลา ที่คุณจะต้องรู้ เดี๋ยว คุณก็จะรู้เองแหละ บางทีนะ บางที มีบางครั้งที่ต้องรู้บางสิ่งบางอย่าง เพราะถ้าคุณกินมากเกินไป คุณก็จะย่อยไม่ได้ฉันอยากจะบอกอะไรคุณอีก? ฉันคิดว่า นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องนั้น แค่ดีใจที่ได้พบคุณ ดีใจที่คุณมา และคนอื่น ๆ จะมาอีกนิดหน่อย รู้มั้ย หลายคน เกือบจะถึงแล้ว แล้วก็หล่น ตุ้บ อ๋อ ฉันดูแล้ว เลยบอกว่า "โอ้ ไม่นะ! โอ้ ไม่นะ!" หลาย ๆ คน ก็ไปที่นั่นกันหลายคน ที่นั่น 60 (องศา) แล้ว ถึงชายแดน ระดับที่สามแล้ว และโกรธ ต่อว่าบางคน ย้ายออกไป โกรธฉัน ติเตียนฉัน ติเตียนผู้คน ขี้เกียจ ไม่ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายงานไม่เคยทำร้ายคุณ การทำงานไม่เคยทำร้ายคุณ มันช่วยคุณเท่านั้น คุณควรจะเสียใจ ที่คุณไม่มีงานมากพอ ที่จะแก้กรรมของคุณ มันไม่ใช่ว่า ฉันต้องการให้คุณทำงาน แต่คุณกิน คุณดื่ม คุณหายใจในโลกนี้ คุณจะต้องคืนมัน ไม่เช่นนั้น คุณจะต้องเสียเงินไปกับ ธนาคารแห่งจิตวิญญาณ และการหารายได้ จากธนาคารจิตวิญญาณนั้นยากมาก งานทุกอย่าง เงิน ทุกอย่าง ที่คุณสามารถหาได้ แต่เรื่องจิตวิญญาณนั้นยากมาก โอ้ พระเจ้า มันไม่ใช่แค่ การนั่งอยู่เฉย ๆ ทั้งวัน แล้วคุณก็กลายเป็นนักบุญ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ นั่นเป็นความคิดที่ผิด แม้แต่อากาศที่คุณหายใจ ก็ฟรีใช่ไหม? ไม่ มันไม่ฟรี น้ำที่คุณดื่มฟรีหรือ? ไม่ มันไม่ฟรี โลกที่คุณเดินอยู่นั้น ฟรีใช่ไหม? ไม่ ถึงแม้คุณจะไม่กินอะไรเลย คุณไม่ดื่มอะไรเลย ตราบใดที่คุณยังหายใจอยู่ คุณยังต้องจ่ายสำหรับมัน ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หลาย ๆ คนคงเคยสูญเสียคนหนึ่งในพวกคุณ ฉันเห็นว่า เขามีกรรมและภาระมากมาย ฉันพาเขามาที่นี่ เขาเกือบจะถึงแล้ว แล้วฉันก็ไม่รู้ว่า เขาโกรธฉัน แล้วเขาก็จากไป ตอนนี้เขาเสียห้า (องศา) แล้ว ไม่เพียงแต่เขาไม่ได้ขึ้นมา ทว่าเขายังเสียไปห้าองศาด้วย ถ้าฉันไม่เข้าไปยุ่ง เขาคงสูญเสียมากกว่านี้ ถ้าฉันไม่พยายามอย่างมาก ที่จะคืนดีกับเขา ก่อนที่เขาจะจากไป เขาคงสูญเสียมากกว่านี้ มันยากมาก ยากมากที่จะช่วยคุณ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการ แน่นอนว่า ฉันบอกคุณเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่คุณไม่เข้าใจ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ใช่ไหม? ไม่มีอะไรใหม่ใช่ไหม? ฉันบอกคุณเรื่องนี้ก่อนแล้วหรือยัง? (ท่านบอกแล้วครับ) ฉันบอกแล้ว แต่คุณฟังที่นี่ มันออกไปทางนั้น คุณไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วพอถึงเวลาทดสอบ คุณก็คิดว่า "โอ้ อาจารย์แย่มากเลย! โอ้ นักบุญคนนั้นแย่มาก! เขาเป็นนักบุญประเภทไหน? เขาต้องอยู่ในระดับที่หนึ่ง ไม่ใช่ระดับที่สาม เขาแย่มาก”ใครคนใดคนหนึ่งจะสูญเสีย มีการทดสอบอยู่ตลอดเวลา เพราะพวกคุณทุกคนต่างกัน พวกคุณล้วนต่างก็มีความแตกต่างกัน คุณทำแบบทดสอบส่วนตัว แล้วคุณทุกคน มีกรรมต่างกัน มันไม่ใช่แค่กรรมเท่านั้น ที่คุณมีอยู่กับคุณ แต่คุณสร้างกรรมใหม่ทุกวัน กับเพื่อนร่วมงานของคุณ กับศิษย์ผู้อาศัยของคุณเอง หรือกับศิษย์คนอื่น หรือแม้แต่กับคนภายนอก คุณออกไปข้างนอก คุณโกรธคนอื่น คุณกลับบ้าน คุณก็สูญเสียไปจำนวนหนึ่ง นั่นคือสาเหตุ ที่พวกคุณหลายคน ถดถอยและหลายคนไม่ก้าวขึ้นมา คุณก็สามารถทำได้ บางคนสูญเสียองศาไปเยอะ ทั้งที่นี่ และศิษย์ผู้พำนักในเหมียวลี่คนที่อยู่กับถง ชาวเอาหลัก (เวียดนาม) เธอควรจะขึ้นไป แต่เพราะเธอย้ายออกไป... เธอโกรธคนอื่น เธอควรต้องอดทน และทนกับการถูกเหยียดหยาม แล้วเธอก็จะ ขึ้นไปกับคุณด้วย คุณอยู่ คุณไม่พูดอะไร คุณก็โอเค เธอเก็บข้าวของและออกไป เพราะเธอโกรธ ศิษย์ผู้พำนักที่ต่ำกว่า แล้วทั้งสองก็พ่ายแพ้ คนที่ก้าวกลับมาได้ เหมือนเป็น “เหยื่อ” แต่ก็สูญเสียได้เช่นกัน เพราะไม่ได้สำนึกบุญคุณใคร ไม่คิดว่าอาจารย์ ใช้ใครมาต่อว่าเรา หรือสร้างปัญหาให้เรา มันคือการทดสอบของคุณที่จะขึ้นไป เพราะฉันไม่อยู่ที่นั่น แล้วใครจะมาทดสอบคุณอีกล่ะ?ใครอยู่ใกล้ ๆ ใครอยู่ใกล้ ๆ จะถูกอาจารย์ใช้ ทดสอบคุณ แต่เพราะเขาทำด้วยอัตตา อีกฝ่ายเลยคิดว่า "คนนั้นดุฉัน พวกเขาทำได้ยังไง?” แล้วก็ย้ายออกไป แล้วทั้งคู่ก็สูญเสีย บางคนสูญเสียมากกว่าบางคนน้อยกว่า แต่ก็ยังสูญเสียอยู่ดี มันแย่มากเอาล่ะ เรื่องนี้ก็เป็นเช่น ครั้งนี้มันเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ เพราะหลายคนได้ขึ้นไปจนถึง ขอบเขตระดับที่สาม แล้ว มันเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ โอ้ การทดสอบครั้งใหญ่ โอ้ทดสอบ ครั้งใหญ่ โอ้! หายไปเยอะมาก หลายคนได้ล้มเหลว ฉันยังคงใจเต้นแรงอยู่ ใช่ ฉันปั๊มหัวใจไปตลอด เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ครั้งหน้า ทุกคนระมัดระวังกันด้วย ทุกคน ส่วนใครที่สอบไม่ผ่าน ก็ระวังไว้ ไม่มีอะไรที่เป็นจริง โลกทั้งใบนี้ มันไม่ได้เป็นจริงอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการดุด่า “ทำร้ายร่างกาย” ทำไม ใด ๆ…ไม่มีที่เป็นจริงทั้งสิ้น ที่นี่เป็นเพียงความฝัน มันเป็นเรื่องยากที่จะตระหนักถึงมัน พอคุณขึ้นไปสูง ๆ คุณถึงจะเห็นว่า “อะไรเนี่ย…?” ฉันทำอะไรมาบ้าง? ฉันเอาศัตรูมาเป็นมิตร ฉันเอาเพื่อนมาเป็นศัตรู ฉันเอาเรื่องดีมาเป็นไม่ดี ฉันเอาเรื่องไม่ดีมาเป็นดี ฉันเอาความฝันมาเป็นความจริง และฉันเอาความจริงมาเป็นความฝัน”แต่แน่นอน มันเป็นอย่างนั้น... โลกนี้เป็นอย่างนั้น ตั้งแต่โลกที่สอง ไปจนถึงโลกทิพย์ ถึงโลกกายภาพ ทุกคนต่างสนุกสนานไปกับโลกนี้ มาก ๆ ไม่มีใครคิดที่จะ ขึ้นไปไหน ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้รู้ เรื่องราวใด ๆ ในอาณาจักรที่สูงกว่า เพราะถ้าพวกเขารู้ ทุกคนก็จะอพยพไป เหมือนผู้ลี้ภัย วิ่ง วิ่งกันไปหมดเลย ไม่มีใครสนใจเลย พวกเขาจะโยนขนมปังทั้งหมดทิ้ง และน้ำผลไม้ ผลไม้ ทุกอย่าง โยนมันออกไป แล้วก็วิ่งเลย เพราะงั้น คุณถึงไม่ได้รับอนุญาตให้รู้อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าคุณไม่ได้รับอนุญาตให้รู้นะ แต่เป็นเพราะว่า ผู้คนในโลกนี้ ถูกปกคลุมด้วยวัตถุมากเกินไป มันไม่ค่อยชัดเจน มันไม่สามารถชัดเจนได้ มันเป็นอย่างนั้น แม้ว่าพวกเขาอยากทำเช่นนั้น พวกเขาแค่ไม่รู้ พวกเขาไม่สามารถอธิษฐานได้ อย่างหนักเลย ยกเว้นแต่ขอ สิ่งของทางวัตถุ: "โปรดช่วยฉันด้วย เพื่อให้ฉันมีสุขภาพแข็งแรง" "ช่วยฉันให้ถูกลอตเตอรี่" "โปรดช่วยให้ลูกสาวของฉัน มีสามีที่ดีด้วย" บลา บลา... พวกเขาแทบจะไม่อธิษฐาน ถึงพระเจ้า ขอพระเจ้าเลย เขาไม่ได้อธิษฐานขอพระพร ให้ระดับสูงขึ้น พวกเขาอธิษฐานขอประโยชน์ทางวัตถุ เพราะงั้น จึงสอนพวกเขาได้ยาก เพราะงั้นครูท่านเดียวก็พอ ไม่มีใครฟัง มีครูมากกว่านี้ไปเพื่ออะไร?แม้แต่ท่านเดียว พวกเขาก็ฆ่าท่าน ตรึงท่านบนไม้กางเขน หรือขว้างก้อนหินใส่ท่าน หรือทอดท่านทั้งเป็น หรือเผาท่าน ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ในโลกแห่งกายภาพนี้ คุณไม่สามารถพูดได้ สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่มักจะหูหนวก เป็นใบ้ และตาบอด พวกเขาคิดถึงแต่ผลประโยชน์ ทางวัตถุและสิ่งต่าง ๆ ถึงแม้พวกเขาจะอธิษฐานต่อพระเจ้า แต่ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะอธิษฐาน เพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุเท่านั้น เพราะฉะนั้น หากคุณสามารถ หนีจากมันได้ ก็ถือว่าดีแล้ว ดี ดี ดียากมาก แม้ว่าคุณจะมาจาก โลกที่สามก็ตาม คนจำนวนมากที่ฝึกฝนวิถีต่าง ๆ พวกเขาสามารถไปถึง ระดับที่สามได้ และยังไม่สามารถไปสู่ ระดับที่สูงขึ้นได้อีก และแล้ว พวกเขาก็ต้องลงมาอีกครั้ง มีเพียงวิถีกวนอิมเท่านั้น ที่สามารถช่วยดึงคุณขึ้นมาได้Photo Caption: ขอบคุณพระเจ้า สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ประทาน